| ประเภทของไมโครโฟน | 
  
  
    | 
                 
     | 
  
  
    | 
    อ้างอิง
				                
    อ่าน 5160 ครั้ง / ตอบ 1 ครั้ง 
     | 
  
  
    
    	
    	    	
							 
						
        
        
    				avlthailand                          
      
       | 
    
    	 
		ไมโครโฟน  
คืออุปกรณ์รับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า  
เพื่อประมวลผลในเครื่องขยายเสียง 
ไมโครโฟนประกอบด้วยขดลวดและแม่เหล็กเป็นหลัก  
เมื่อเสียงกระทบตัวรับในไมโครโฟน จะทำให้ขดลวดสั่นสะเทือนตัดกับสนามแม่เหล็ก  
จึงทำให้เกิดเป็นสัญญาณไฟฟ้า 
 
ไมโครโฟน แบ่งตามหลักการทางไฟฟ้า ได้ 2 ประเภท คือ แบบไดนามิค และ แบบคอนแดนเซอร์ 
ซึงจะมีความแตกต่างกันดังนี้ 
 
ไดนามิกไมโครโฟน หรือมูฟวิ่งคอยล์ (Dynamic or Moving Coil Microphones) 
ทำงานโดยให้แผ่นไดอะแฟรม ซึ่งจะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมมีขดลวด 
พันยึดติดอยู่รอบ ๆ เคลื่อนไปมาระหว่างแม่เหล็กถาวร การเคลื่อนที่เกิดจาก 
แรงสั่นสะเทือนของเสียง ซึ่งทำให้ไดอะแฟรมสั่นสะเทือนพร้อมทั้งทำให้ขดลวดที่อยู่ภายในเคลื่อนที่ไปด้วย ซึ่งทำให้เกิดการเหนี่ยวนำกับแม่เหล็กจึงสร้างกระแสไฟอ่อน ๆ เพื่อส่งไปยังเครื่องขยายเสียงได้ ไดนามิคไมค์มีความทนทานในการใช้งาน ทนต่อการตกหรือกระแทกและทนต่อเกิดอาการกระชากของเสียงได้ดี 
ส่วนข้อเสียคือให้ความไวและรัศมีในการรับเสียงที่ไม่ดีเท่าคอนแดนเซอร์ไมค์และยังตอบสนองต่อความถี่ได้ไม่เต็มโดยเฉพาะย่านความถี่สูง 
 
คอนแดนเซอร์ไมโครโฟน (Condenser microphones) 
เป็นไมโครโฟนที่ใช้วงจรทางอิเล็กทรอนิกส์ หลักการทำงานยังใช้ไดอะแฟรม 
เป็นตัวรับเสียงเหมือนแบบไดนามิค ซึ่งมักทำจากแผ่นพลาสติกเคลือบทองยึดติดอยู่เหนือ blank plate (ทำจากเซรามิกเคลือบทอง)ซึ่งทำให้มีช่องว่างเล็ก ๆ เพื่อการเคลื่อนตัวไปมาซึ่งการเคลื่อนตัวที่ว่านี้จะทำให้แผ่นไดอะแฟรม เคลื่อนที่เข้าหา blank plate แตะกันทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปมาได้ด้วยไฟฟ้าที่มาจากแหล่งกำเนิดที่เรียกว่าแฟนทอม (phantom) โดยผ่านตัวเก็บประจุ ซึ่งจะมีขั้วบวกและลบอยู่ โดยขั้วบวกและลบจะถูกต่อไว้ที่ไดอะแฟรม คนละแผ่นดังนั้นทุกครั้งที่ไดอะแฟรม เคลื่อนที่เข้ามาหากันประจุไฟฟ้าก็จะถูกเหนี่ยว 
นำและมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรงของเสียงที่มากระทบไดอะแฟรมนั่นเอง  
หากแรงมากไดอะแฟรม ก็แตะกันนานขึ้นกระแสไฟฟ้าก็ไหลได้มากขึ้นตรงข้ามหาก 
แตะกันเร็วก็ไหลได้น้อยลงผลของการไหลนี่เองจะถูกส่งผ่านไปยังปรีแอมป์เพื่อขยาย 
ให้แรงพอที่จะป้อนเข้าสู่มิกเซอร์ เนื่องมาจากคอนเดนเซอร์ไมค์ใช้วงจรทางอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยและต้องใช้ไฟมาเลี้ยงซึ่งมีตั้งแต่ 1.5 ไปจนถึง 48 โวลต์ (volts)ดังนั้นความไวต่อการรับเสียงซึ่งสูงมากและสามารถตอบสนองต่อเสียงได้ราบรื่นตลอดย่านความถี่อีกด้วยจึงเหมาะมากสำหรับการบันทึกสัญญาณต่าง ๆ เช่น เสียงร้อง เครื่องดนตรีแบบอะคูสติกหรือจับสัญญาณเสียงที่ไม่ดังมาก แต่ไม่เหมาะกับการบันทึกสัญญาณที่แรงมากเช่นเสียงจากตู้แอมกีตาร์ ซึ่งอาจทำความเสียหายต่อไดอะแฟรมได้ง่าย 
            ดังนั้นทั้งไดนามิกไมค์ (Dynamic microphones) และคอนเดนเซอร์ไมค์ (Condenser microphones) ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป การใช้ง่านจึงขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่ท่านนำไปใช้ด้วย 
     | 
  
  
  |   | 
    
    	
    				avlthailand    	     avlthailand@gmail.com [124.122.220.xxx] เมื่อ 6/07/2021 09:22     
	     |